ธุรกิจหากินกับความโศกเศร้า (อุทาหรณ์ของความไม่รู้)

ตามหัวข้อเลยค่ะ เกริ่นเรื่องง่ายๆนะคะ คือ คุณพ่อเราเสียชีวิต แล้วเราเสียความรู้สึกมาก กับพิธีกรรมต่างๆ ที่เราได้จัดลงไป (ถึงกับเสื่อมศรัทธากับศาสนาเบาๆ แต่แยกแยะได้อยู่ค่ะ ว่าไม่เกี่ยวกับแก่นคำสอน แต่เป็นที่คณะบุคคลเท่านั้น) เพราะต้องเสียค่าใช้จ่ายมากมายจากความไม่รู้ของเรา กระทู้นี้จึงขอเขียนขึ้น เพื่อเป็นอุทาหรณ์ค่ะ และเผื่อท่านใด (ไม่ได้แช่งเด้อ) ประสบกับเหตุการณ์ที่มีคนใกล้ตัวเสียชีวิตขึ้น จะได้ทราบวิธีปฏิบัติค่ะ

ขอออกตัวก่อนว่า นี่เป็นกระทู้แรกนะคะ ปกติอ่านกระทู้มาตลอด แต่ไม่เคยคิดจะเขียนหรือคอมเมนท์อะไร แต่เรื่องนี้ขอจริงๆค่ะ

ขอเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นนะคะ .. ยาวหน่อยนะคะ แต่คุ้มค่าทุกตัวอักษรแน่นอนค่ะ

คุณพ่อของเราเสียชีวิต ในช่วงเช้าของวันวันหนึ่ง ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง แน่นอนว่าเกิดความโศกเศร้ามากมายให้กับสมาชิกครอบครัวที่เหลือ
ก็ทำตามขั้นตอนค่ะ ทาง รพ. ได้ทำการอาบน้ำ แต่งตัวให้พ่อเราใหม่ และ พาลงไปที่ห้องดับจิต เพื่อฉีดฟอร์มาลีน
ระหว่างนี้ญาติๆ เราได้มีการติดต่อซื้อหีบศพ และทางบริษัทได้มีรถตู้มาเพื่อเคลื่อนย้าย รวมถึงนิมนต์พระมาด้วย 1รูป เพื่อทำการอัญเชิญวิญญาณ
เมื่อทำการฉีดเสร็จ ก็ต้องเคลื่อนย้ายคุณพ่อลงโลง เพื่อขนย้ายต่อมายังวัด เจ้าหน้าที่ รพ. ผู้ชาย 3 ท่าน ได้รีเควสท์เงินใส่ซองให้เค้า เป็นจำนวนเงิน ท่านละ 200 บาท ซึ่งตรงนี้ เราเข้าใจเรื่องเงินใส่ซองค่ะ ก็ใส่ไป แต่ตะหงิดใจ ตรงที่ ปกติ เค้ารีเควสท์จำนวนเงินกันแบบนี้ ก็ได้หรอ!?

เมื่อมาถึงวัด เจ้าหน้าที่ของบริษัทหีบศพดีมากค่ะ บอกเราให้พูดและทำตามขั้นตอนนั้นนี้ หลังจากเสร็จตรงนี้ เราก็ใส่ซองให้เจ้าหน้าที่และพระรูปนั้นไปค่ะ รวมทั้งสิ้น 4ซอง (เจ้าหน้าที่ 3ท่าน และพระ 1รูป) รวมถึงจ่ายค่าโลงศพและดอกไม้หน้าศพด้วย เป็นเงินประมาณหมื่นบาทค่ะ

เมื่อเจ้าหน้าที่ไป เรา ครอบครัวและญาติๆ ก็อยู่กันที่วัด ศาลาที่จองไว้ เป็นศาลาแอร์ ที่แขกทั้งหมดนั่งในแอร์ได้หมดเลยค่ะ ค่อนข้างใหญ่ทีเดียว ในจุดนี้เราไม่คิดมากค่ะ เราอยากให้แขกที่มาสบายๆ รวมถึงพวกเราครอบครัว ก็สบายๆ ด้วย

ระหว่างรอเวลาสวด เรา ครอบครัวและญาติๆ ก็หารือกันถึงเรื่อง ธูป, อาหารที่ไหว้คุณพ่อวันละ 3มื้อ, สวดกี่วันดี, อาหารที่เลี้ยงแขกหล่ะ?, กระดาษที่จะเผาให้คุณพ่อ (เราเป็นคนไทยเชื้อสายจีน), น้ำตาล-ด้ายแดง ต่างๆ นาๆ ระหว่างนี้ ก็มีพี่ผู้หญิงและผู้ชายคู่หนึ่ง เป็นผู้ดูแลศาลา เข้ามาให้การช่วยเหลือค่ะ และจัดการอะไรต่างๆ นาๆ ที่เกี่ยวข้องกับที่ศาลาให้ นั่นคือ การยกอาหารให้คุณพ่อวันละ 3-4 มื้อ, ต่อธูป, น้ำอัดลมถวายพระ, ดอกไม้ถวายพระ, น้ำสำหรับแขก, น้ำมันก๊าด ฯลฯ ซึ่งทางเราก็เห็นว่า สะดวก จึงยกเป็นหน้าที่ให้พวกเค้าค่ะ

ส่วนอาหารเลี้ยงแขก เราได้ทำการสั่งร้านอาหารตามสั่งหน้าวัด ให้มาทำอาหารให้รายวันค่ะ โดยลิสท์เป็นรายการอาหารให้เค้า นี่คือจุดที่เราพลาดมากๆ ค่ะ คือเราไม่ได้ตกลงราคาต่อถ้วยกับทางร้านก่อน

งานคุณพ่อเรา สวด 6 วัน 7 รอบค่ะ และในวันที่ 7 ทำการฌาปนกิจศพ โดยที่หลานชายเราบวชหน้าไฟให้คุณพ่อด้วยค่ะ

ทุกอย่างดำเนินไปค่ะ เราขอสรุปสิ่งที่เราต้องจ่าย และที่ทำให้เรารู้สึกเสื่อมศรัทธา และรู้สึกโง่พลาดไปด้วยกันเลยนะคะ
1. ทุกๆ วันที่พระมาสวด เราจะต้องมีชุดสังฆทาน ผ้าบังสุกุล และดอกไม้ถวายพระ 4 รูป รูปละ 1 ชุด ชุดละ 375 บาท+เงินใส่ซองที่ยัดลงไปในช่อดอกไม้อีกทั้งสิ้น 7 วันและมีถวายเพลวันสุดท้ายอีก 10 รูป รวมทั้งหมด 38 ชุด ประมาณ 18,000บาท (ขอย้ำอีกรอบนะคะ การใส่ซอง เราเข้าใจ)

2. อาหารที่ทำเลี้ยงแขกค่ะ ทั้งสิ้น 5 วัน และวันสุดท้ายถวายเพล รายการอาหารดังนี้ค่ะ
- เกี้ยมอี๊น้ำ 50 ที่ :: 3,000 บาท
- เกี๊ยวน้ำ 100 ที่ :: 4,500 บาท
- ข้าวต้ม 70 ที่ :: 3,500 บาท
- เซี่ยงไฮ้ 70 ที่ :: 3,500 บาท
- กระเพาะปลา 70 ที่ :: 4,000 บาท
และวัดสุดท้ายถวายเพล มีอาหาร 5อย่างค่ะ คือ ผัดเผ็ดปลาดุก, ผัดผักบล็อคโคลี่, ลาบหมู, ต้มยำไก่, หมูผัดขิง และลอดช่องน้ำกะทิ ทั้งหมดสำหรับ 50 ที่ :: 10,000 บาท
รวมค่าอาหารทั้งหมด 28,500 บาท
เรื่องอาหารนี้เราพลาดมากค่ะ อย่างที่บอก คือเราไม่ได้ตกลงราคาต่อถ้วยกับทางร้านก่อน ถ้าเพื่อนๆ สังเกตุจะเห็นว่า ราคาต่อถ้วยสูงมาก ซึ่งอาหารที่ได้รับ ถ้วยใหญ่และอร่อยค่ะ แต่ที่เราคิดที่จะทำอาหารเลี้ยง เพราะคิดว่า น่าจะประหยัดกว่าการซื้อ snack box แบบที่งานศพใน กทม. ทั่วๆ ไปให้กันค่ะ แต่กลับกลายเป็นแพงกว่ามาก และเมื่ออาหารมาเสิร์ฟจริงๆ ไม่มีใครมานั่งนับค่ะ ว่าถึงจำนวนที่สั่งไว้จริงหรือไม่ เป็นแค่จำนวนประมาณการเท่านั้น
และอีกเรื่องนะคะ หากทำได้ให้เช็คจำนวนอาหารกับทางแม่ครัวรายวันเลยค่ะ เพราะบางวันแขกเยอะ บางวันน้อย ท่านทราบดีว่า วันไหนเป็นอย่างไร ย้ำกับทางแม่ครัวรายวันเลย จะดีที่สุดค่ะ

3. พี่ดูแลศาลา ผญ ยื่นบิลให้เราในวันฌาปนกิจค่ะ ว่ารายการที่เค้าดูแลให้เรา มีอะไรบ้าง
- จุดธูป (ต่อธูป) 6 วัน วันละ 200 บาท รวม 1,200 บาท
- อาหารให้คุณพ่อ 17 มื้อ มื้อละ 70 บาท รวม 1,190 บาท
- น้ำอัดลมถวายพระ 28 ขวด ขวดละ 25 บาท รวม 700 บาท
- ดอกไม้ถวายพระ 50 กำ กำละ 25 บาท รวม 1,250 บาท
- น้ำแก้ว 15 กล่อง กล่องละ 80 บาท รวม 1,200 บาท
- น้ำแข็ง 14 ถุง ถุงละ 60 บาท รวม 840 บาท
- ผ้าเณร 200 บาท
- มะพร้าวและน้ำมันก๊าด 110 บาท
รวมทั้งสิ้น 6,690 บาท
จุดที่พลาดนะคะ เราไม่ทราบหรอกค่ะ ว่าเราดื่มน้ำและเสิร์ฟแขกไปกี่แก้ว กี่กล่อง น้ำแข็งก็ไม่ได้ทานค่ะ เป็นแค่เอามาแช่แก้วน้ำ แล้วน้ำอัดลมนะคะ พี่เค้าเสิร์ฟอิชิตันค่ะ ขวดละไม่ถึง 25 บาทหรอกค่ะ แต่ทั้งหมด เราถือว่าเป็นค่าสะดวก และเป็นค่านับไม่ได้ละกันนะคะ แต่ค่อนข้างหงุดหงิดค่ะ
ยังค่ะ .. ยังไม่หมด มีอีกบิลหนึ่ง วันที่เรามารับเถ้าอัฐิของคุณพ่อเพื่อไปลอยอังคารค่ะ
- ปิ่นโตอาหารหวาน คาว 120 บาท (เฉพาะอาหารนะคะ ปิ่นโต 4 ชั้น ซื้อมาเอง)
- สังฆทาน 200 บาท
- น้ำอบและผ้าขาว 100 บาท
- พวงมาลัย 100 บาท
- มะลิ กุหลาบ ดาวเรือง (ดอกไม้ฉีกสำหรับโรยบนเถ้าอัฐิ) 150 บาท
- ดอกไม้กำ 25 บาท
- เงิน 32 บาท
ในวันลอยอังคารคุณพ่อ เราหมดอารมณ์มากๆ จริงๆ ค่ะ เมื่อไปถึง พี่ดูแลศาลาผู้หญิง ยื่นบิลใบนี้ให้คุณแม่เราตั้งแต่ยังไม่ทำพิธี เรากระชากบิลออกมาจากมือคุณแม่ และชักสีหน้าสุดๆ พร้อมพูดว่า "ไหน ค่าอะไรอีก?" เราบวกเลขในบิลทั้งหมดในใจ และพบว่า เค้ารวมยอดสรุปผิดค่ะ เราจึงพูดออกไปว่า "ยอดรวมผิดนะคะ" พี่เค้าเห็นอย่างงั้นจึงบอกให้เราใจเย็นๆ ทำพิธีเสร็จก่อนค่อยเคลียร์ พอพิธีเสร็จ เราจึงเอามือถือขึ้นมาบวกตามบิล พบว่า เค้าบวกถูกแล้วค่ะ เรายังไม่ทันได้พูดอะไร พี่เค้ายื่นเงินมาให้เรา 550 บาท แล้วพูดว่า "ค่าลุ้ง หนูจ่ายกับทางวัดแล้วใช่ไหม พี่คิดว่ายังไม่จ่าย เลยเก็บเงินจากแม่มาจะไปจ่ายให้" .. ตรงนี้เราไม่ทราบนะคะ ว่าพี่เค้ามีเจตนาอย่างไร เงิน 550 บาทที่ได้คืนมา เมื่อเทียบกับที่เราต้องจ่ายทั้งหมด มันไม่มีผลอะไรเลยค่ะ แต่ถ้าใครจะมาเอาไปเปล่าๆ ฟรีๆ เราไม่มีทางโอเคแน่นอนค่ะ

4. ค่าศาลา 7 วัน 29,500 บาทค่ะ รวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ ด้วยนะคะ ดูตามบิลได้เลย (มีบางส่วนซ้ำกับข้อ 1 นะคะ)
ถ้าเพื่อนๆ สังเกตุจะเห็นว่า ค่าใช้จ่ายแต่ละรายการ ราคาเกินจริงสุดๆ เช่น 'ธูปเทียน 1,200 บาท' อันนี้ความคิดเรานะคะ ว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่มีคนนำมาถวายวัดอยู่แล้ว แต่วัดกลับนำมาชาร์จจากผู้ใช้ ก็ไม่ใช่ว่าเราจะใช้ของวัดฟรีนะคะ ธูป เราซื้อมาเองค่ะ เหลือก็บริจาคไว้ให้วัดอีกต่างหาก ในจุดนี้เราเข้าใจนะคะ ว่าบางคนที่มาจัดงานอาจจะไม่มีเซนส์ มาใช้ของวัดฟรีๆ ก็คงมีค่ะ ถ้าทางวัดอยากให้ช่วย เขียนเป็นรายการลงมาในบิลด้วย เราโอเคค่ะ แต่ราคาเขียนว่า 'ตามศรัทธา' จะสวยกว่าไหมคะ? คนทำบุญอย่างเรา มีแต่อยากจะมาให้เพิ่มค่ะ แต่เมื่อเจอคนอยากจะเอา มันเหนื่อยใจค่ะ

5. งานซองต้องมาค่ะ และนี่เป็นสิ่งที่ทำให้เราหงุดหงิดที่สุด
- ซองเจ้าหน้าที่ รพ. 3 ซอง ที่บอกไปแล้ว
- ซองให้พนักงานของบริษัทหีบศพ และพระ 4 ซอง (อันนี้เต็มใจให้นะคะ พี่เค้าทำงานดีมากจริงๆ)
- ซองที่ใส่พระ 4 รูปทุกวัน 7 วัน รวม 28 ซอง
- ซองให้พี่ดูแลศาลาผู้ชาย
- ซองให้พี่ดูแลศาลาผู้หญิง
- ซองให้คนที่มาช่วยยกคุณพ่อและวนซ้ายรอบเมน 5 ซอง
- ซองให้พระ ตอนที่หลานเราบวชหน้าไฟ 3 ซอง อันนี้ทำเราฟิวส์ขาดค่ะ เพราะพี่ดูแลศาลา มีการบอกจำนวนเงินออกมาเลย ว่าซองละเท่าไร และตอนหลานบวช ขั้นตอนคือ พาหลานไปพบเจ้าอาวาส, ท่องบทสวดตาม, ไปใส่ผ้าเหลือง (คนใส่ให้คือพี่ดูแลศาลาผู้ชาย), กลับมาพูดอะไรอีกนิดหน่อย จบ! คือ 3 ซองนี่ ของใครบ้างหรอคะ!? อันนี้ใครมีความรู้บอกเราได้เลยนะคะ
- ซองให้เณรที่บวชหน้าไฟ (อันนี้ให้หลานค่ะ เยอะๆ เลย)
- ซองให้พระ ตอนถวายเพล 10 ซอง
- ซองให้คนเก็บเถ้ากระดูก 2 ซอง
- ซองให้คนบนเรือตอนไปลอยอังคาร 5 ซอง (อันนี้พี่ๆ ทำงานมืออาชีพมากค่ะ เต็มใจให้)
คือ ตรงนี้ ที่ทำเราหมดศรัทธามากๆ คือการพูดจำนวนเงินที่ใส่ซองออกมา คนรับซองไม่ผิดหรอกค่ะ แต่รูปแบบ เหมือนมีการเตี๊ยมกันมาหมด ว่า จะต้องพูดกับญาติผู้เสียชีวิตอย่างไร อันนี้เราไม่รู้ว่าเราคิดมากไปหรือเปล่านะคะ แต่ขอยกตัวอย่าง เช่น ซองที่ให้พระตอนที่หลานเราบวชหน้าไฟ 3 ซอง พี่ดูแลศาลาผู้ชาย พูดออกมาว่า ใส่ซองหนึ่งมากกว่า อีก 2ซองที่เหลือเท่ากัน ซองที่มากกว่าเป็นของเจ้าอาวาส ไม่ต่ำกว่า 500 บาท อีก 2 ซอง 300 บาท อย่างนี้เป็นต้นค่ะ หรืออีกตอนที่ พี่ดูแลศาลาผู้หญิงมาบอกว่า ตอนเสร็จงาน ก็ใส่ซองให้พี่ดูแลศาลาผู้ชายหน่อยนะคะ แกไม่มีเงินเดือน อะไรประมาณนี้ค่ะ ซึ่งเป็นมุกซ้ำกับตอนที่พี่ดูแลศาลาผู้ชายมาบอกเราว่า ใส่ซองให้คนที่ช่วยยกโลงคุณพ่อ 5 คนด้วย คนเหล่านั้นไม่มีเงินเดือนเช่นกัน

6. ค่าเรือเพื่อออกไปลอยอังคารคุณพ่อ เราไปที่กองบัญชาการกองเรือยุทธการ สัตหีบ ที่นี่ดีมากค่ะ เราแนะนำนะคะ

7. อื่นๆ ค่ะ เช่น ค่ารูป-กรอบรูป ค่าลูกอม-ด้ายแดง ค่ากระดาษห่อโปรยทาน กระดาษเงินกระดาษทอง ของชำร่วยงานฌาปนกิจ จิปาถะ ยิบย่อยเยอะมากค่ะ

มาถึงตรงนี้ มีสิ่งที่เราดีใจอย่างเดียว คือ ทุกสิ่งอย่างที่เราทำลงไป เราเลือกที่ดีที่สุดให้คุณพ่อเราแล้วค่ะ
แต่เสียความรู้สึกมากๆ กับคนเหล่านั้น จนมันทำให้เรารู้สึกว่า นี่คือ สถานที่ ที่ทำให้คนเหล่านี้มาหากินกับความโศกเศร้าของผู้คนเหรอ?
ในวันฌาปนกิจศพคุณพ่อ คือวันที่เคลียร์ค่าใช้จ่ายหลายๆ ส่วน ความเศร้าที่คุณพ่อเราเสีย หายไปจากเราเลยค่ะ กลายเป็นความโมโห ให้กับความโง่ของตัวเอง
แต่ทุกอย่างก็จบลงแล้วค่ะ เราทำอะไรไม่ได้แล้ว จ่ายไปหมดแล้ว แต่แค่มานั่งคิดว่า คนที่ไม่ได้มีฐานะนัก เค้าจะทำอย่างไร?
เราพูดตรงๆ นะคะ เราเสียใจแทนคนใส่ซองมาช่วยงานมากๆ ค่ะ ซองเหล่านั้น ควรจะได้มีส่วนให้คุณพ่อเรา ได้บุญ ได้กุศลมากขึ้น เหมือนทำบุญร่วมกัน
แต่กลับกลายเป็น มาจ่ายให้กับธุรกิจรูปแบบหนึ่งทั้งหมด

รวมนะคะ งานคุณพ่อเรา ทั้งหมดเป็นเงิน 6หลักค่ะ

สุดท้ายนี้ หากกระทู้นี้ได้เป็นประโยชน์ กับใครก็ตาม ไม่ว่ารูปแบบใดก็ตาม เราขออุทิศบุญ กุศลนี้ ให้กับคุณพ่อเราทั้งหมดค่ะ

ขอบคุณค่ะ

ปล1. ขอบคุณญาติๆ ทุกคนที่มาช่วยตั้งแต่วันแรกที่คุณพ่อเสียค่ะ พวกเราไม่ทราบประเพณีอะไรใดๆ กันทั้งสิ้น ก็ได้ญาติๆ ที่คอยบอกและช่วยค่ะ
ปล2. วัดที่ดี และคนที่ดี มีอยู่จริงค่ะ ไม่เหมารวมนะคะ
ปล3. เรากับเพื่อนสนิท ถึงกับหารือกันเรื่องนี้อย่างจริงจัง อยากแก้ปัญหานี้ในระยะยาวค่ะ ไม่อยากให้ศาสนาเสื่อมไปมากกว่านี้ เพื่อนสนิท จขกท พูดประโยคหนึ่งดีมากค่ะ "บางทีเปลือกมันก็หนากว่าแก่น คนเลยเข้าไม่ถึงศาสนา" เราไม่แอนตี้พิธีกรรมเหล่านี้นะคะ แต่บางทีการที่เราทำตามๆ กันมา จนบางที เราก็ลืมไปแล้วจริงๆ ว่า งานเหล่านี้ มีจุดประสงค์เพื่ออะไร อันนี้ฝากเป็นข้อคิดไว้ละกันค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่